จะซื้อรถมือสอง ก็ราคาถูกดี แต่ดอกเบี้ยนี่สิ ดอกเบี้ยรถมือสองเท่าที่ได้ยินมาก็จะสูงกว่าดอกเบี้ยรถใหม่ป้ายแดงอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ราคาก็ถูกกว่านะ ว่าแต่ ราคารวมดอกเบี้ย จะต่ำกว่า หรือสูงกว่า หรือเท่าๆ กัน กับรถมือหนึ่งป้ายแดงล่ะ แล้วอัตราดอกเบี้ยรถมือสอง เขาคิดราคากันยังไงนะ ใช้อะไรเป็นตัวกำหนด มาดูกันก่อนที่จะตัดสินใจดีกว่า

ดอกเบี้ยรถมือสอง

ปัจจัยหลักที่ใช้ในการคำนวณเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยรถมือสอง นั่นก็คือ ปีที่รถคันนั้นๆ จดทะเบียน ปียิ่งเก่า อัตราดอกเบี้ยรถมือสองก็ยิ่งแพง นั่นคงเป็นเพราะ ราคารถที่ผกผันกัน คือยิ่งปีเก่า ราคาก็จะถูกลง ปัจจัยรองลงมาก็คือประเภทรถ เช่น รถเก๋งกับรถกระบะ/ตู้ อัตราดอกเบี้ยของรถกระบะ และรถตู้ ในปีจดทะเบียนเดียวกันกับรถเก๋ง จะถูกคิดราคาดอกเบี้ยสูงกว่านิดหน่อย ดังตัวอย่างอัตราดอกเบี้ยรถมือสอง ในปี 2561 ที่อ้างอิงมาจากธนาคารธนชาต ตามตารางนี้

ปีจดทะเบียน รถเก๋ง อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี
2011 ขึ้นไป 3.80% – 9.00% 7.12% – 13.93%
2007 – 2010 4.50% – 9.25% 8.36% – 14.35%
2004 – 2006 5.00% – 10.00% 9.24% – 14.76%

 

ปีจดทะเบียน รถเก๋ง อัตราดอกเบี้ย
อัตราดอกเบี้ยคงที่ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี
2011 ขึ้นไป 4.25% – 9.50% 7.92% – 16.80%
2007 – 2010 5.52% – 9.75% 9.68% – 17.20%
2004 – 2006 6.50% – 10.50% 11.83% – 18.40%

 

อย่างที่เรียนแจ้งไปว่าอัตราดอกเบี้ยรถมือสองจะผกผันกันกับราคารถยนต์ คือถ้าดอกเบี้ยถูกนั่นหมายถึงราคารถที่แพงกว่า ซึ่งราคาคารถที่ถูกหรือแพงนั้น ก็ขึ้นอยู่กับปีที่จดทะเบียน คิดง่ายๆ รถที่จดทะเบียนมาแล้วสิบปี จะราคาถูกกว่ารถยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกัน ที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี แต่อัตราดอกเบี้ยของรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 10 ปี ก็จะสูงกว่า อัตราดอกเบี้ยของรถที่จดทะเบียนมาแล้ว 5 ปี นั่นเอง

ส่วนการคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ป้ายแดง ในปี 2561 นี้ ราคาดอกเบี้ยบางยี่ห้อบางรุ่น เริ่มต้นที่ 0% เช่น ฟอร์ด เซีสต้า, ฟอร์ด เอสแคพ และ นิสสัน เซลฟี่, นิสสัน เอ็กเทรล  ขยับขึ้นมาหน่อย กับแบรนด์ยอดนิยม อย่าง ฮอนด้า โตโยต้า และมาสด้า ดอกเบี้ยเริ่มต้นอยู่ที่ 1% กว่าๆ เท่านั้นเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นที่จะซื้อด้วย

ทราบดังนี้แล้ว ลองคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยรถมือสอง กับอัตราดอกเบี้ยรถใหม่ป้ายแดง อย่างถ้วนถี่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถกันเถอะ อ่านเพิ่มเติม